รู้หรือไม่ 6 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการนำกระแสไฟฟ้า

สายไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์สำคัญในงานระบบไฟฟ้าที่ที่วิศวกรต้องให้ความสำคัญในขั้นตอนการออกแบบและคำนวณเพื่อให้ขนาดกระแสของสายไฟฟ้า หรือค่าความสามารถในการนำกระแสสูงสุดของสายไฟ (Iz) สัมพันธ์และสอดคล้องกับขนาดของพิกัดอุปกรณ์ป้องกันกระแสเกิน (In) รวมทั้งช่างไฟฟ้าที่ต้องใส่ใจในรายละเอียดในทุกขั้นตอนของการติดตั้ง เพื่อให้การเดินสายและติดตั้งสายไฟเป็นไปตามมาตรฐาน ฉนวนสายไฟฟ้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ได้รับความเสียหายระหว่างการติดตั้ง รวมทั้งการมีการต่อสายไฟและการเข้าสายที่ขั้วต่อ (Terminals) ที่แน่น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยเมื่อมีการใช้งานทางไฟฟ้า

ปัจจัยใดบ้างที่มีผลต่อการนำกระแสไฟฟ้า

โดยทั่วไปสายไฟที่มีขนาดพื้นที่หน้าตัดของตัวนำ (ตร.มม.) หรือเบอร์ใหญ่ก็จะสามารถนำกระแส หรือมีขนาดกระแสของสายไฟที่มากกว่าสายไฟที่เบอร์เล็กกว่า อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยอื่นอีกมากที่มีผลต่อขนาดกระแสของสายไฟ ผู้เขียนขอสรุปเพื่อให้เข้าใจโดยง่าย โดยอ้างอิงจากสายไฟฟ้าที่กำหนดตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าฯ และที่ถูกใช้งานโดยทั่วไปในการติดตั้งทางไฟฟ้า ได้แก่

1. ชนิดของตัวนำ 

สายไฟฟ้าโดยทั่วไปจะใช้ตัวนำทองแดงหรืออลูมิเนียม ซึ่งสายไฟฟ้าทองแดงจะมีค่าพิกัดกระแสไฟฟ้าสูงกว่าสายไฟฟ้าอลูมิเนียมที่มีขนาดพื้นที่หน้าตัดเท่ากัน

2. ประเภทของฉนวน 

สายไฟฟ้าหุ้มฉนวนชนิดเดียวกัน แต่วัสดุของฉนวนแตกต่างกัน จะมีค่าพิกัดกระแสไฟฟ้าแตกต่างกัน เช่น สายไฟฟ้าหุ้มฉนวนครอสลิงก์พอลิเอทิลีน (XLPE) จะมีค่าพิกัดกระแสสูงกว่าสายไฟฟ้าหุ้มฉนวน PVC ที่มีขนาดพื้นที่หน้าตัดเท่ากัน

3. รูปแบบการติดตั้ง 

รูปแบบการติดตั้ง หรือวิธีการเดินสายไฟ โดยมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าฯกำหนดไว้เป็น 7 กลุ่ม โดยทั่วไปที่สายไฟจะถูกออกแบบและติดตั้งได้แก่ กลุ่มที่ 2 เดินในช่องรางเดินสายโลหะหรืออโลหะเกาะผนังหรือเพดาน หรือฝังในผนังคอนกรีต, กลุ่มที่ 4 วางเรียงกันแบบมีระยะห่าง เดินบนฉนวนลูกถ้วยในอากาศ และกลุ่มที่ 7 วางบนรางเคเบิลมีฝาปิดและไม่มีฝาปิด รางเคเบิลแบบระบายอากาศ หรือรางเคเบิงแบบบันได เป็นต้น

4. จำนวนตัวนำกระแส 

จำนวนตัวนำกระแส 2 เส้น (1 เฟส) หรือ 3 เส้น (3 เฟส) รวมทั้งสายไฟที่ถูกออกแบบและใช้งานเป็นชนิดแกนเดียว หรือหลายแกน

5. จำนวนสายที่นำกระแส 

จำนวนสายที่นำกระแสในช่องเดินสายไฟฟ้าเดียวกันหรือเดินสายบนผิวมากกว่า 1 กลุ่มวงจร โดยจะมีการกำหนดตัวคูณปรับค่าทำให้ขนาดกระแสของสายไฟมีค่าลดลง

6. อุณหภูมิโดยรอบ 

อุณหภูมิโดยรอบหรืออุณหภูมิแวดล้อมในการติดตั้ง โดยจะมีตัวคูณปรับค่าขนาดกระแสตามที่กำหนดในตาราง หากอุณหภูมิโดยรอบแตกต่างจาก 40˚C สำหรับเดินในอากาศ และ 30˚C สำหรับฝังดิน

ดังนั้นการพิจารณาวิธีการติดตั้งและการเลือกใช้ชนิดของสายไฟฟ้าที่เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญในการออกแบบและคำนวณเพื่อหาขนาดสายไฟที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการกำหนดวิธีการเดินสายที่ต้องเหมาะสมกับสภาพหน้างาน เพื่อให้ช่างไฟสามารถติดตั้งได้สะดวก ถูกต้อง และไม่เกิดข้อผิดพลาดระหว่างการติดตั้งงานไฟฟ้า

อ่านมาถึงตรงนี้ทุกท่านก็คงจะทราบแล้วนะครับ ว่าปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการนำกระแสไฟฟ้ามีอะไรบ้าง และหากวิศวกรไฟฟ้าหรือช่างไฟท่านใด ต้องการตู้ไฟ รางไฟคุณภาพดี ทนทุกสภาพการใช้งาน และตรงตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้า สอบถามข้อมูลสินค้าได้ที่

KJL ผู้นำนวัตกรรมตู้ไฟ รางไฟ ที่ช่างไฟเชื่อมั่น ด้วยเทคโนโลยีการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น
สอบถามข้อมูลสินค้าได้ที่ 

LINE Official Account: @KJL.connect หรือคลิก https://lin.ee/lzVhFfo

Facebook: facebook.com/KJLElectric

Related Article บทความสาระน่ารู้อื่น ๆ

Different types of fire extinguishers

ประเภทถังดับเพลิงแต่ละชนิด A, B, C, D, K ต่างกันยังไง

เหล็กชุบกัลวาไนซ์ คืออะไร

เหล็กชุบกัลวาไนซ์ คืออะไร แตกต่างจากเหล็กทั่วไปอย่างไร

ภาพปกบทความ CNC ย่อมาจากอะไร

CNC ย่อมาจากอะไร ทำไมชิ้นงานส่วนใหญ่ผลิตด้วย CNC