Green Industry อุตสาหกรรมสีเขียว สู่การผลิตที่ยั่งยืน

ในปัจจุบัน ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้บริโภคและผู้ผลิตให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือ ‘ภาวะโลกร้อน’ ที่ถือเป็นปัญหาทางสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อมนุษย์ในระยะยาว กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้ริเริ่มโครงการอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) เพื่อส่งเสริมให้สถานประกอบการต่าง ๆ ปรับปรุงการดำเนินงานให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเพื่อให้ประชาชนไว้วางใจ

บทความนี้จะพามาทำความรู้จักว่า อุตสาหกรรมสีเขียว คืออะไร มีกี่ประเภท รวมถึงประโยชน์และความสำคัญที่ควรรู้ เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้เหมาะสม สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยั่งยืน

อุตสาหกรรมสีเขียว หรือ Green Industry คืออะไร?

ตามนิยามโดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ระบุไว้ว่า อุตสาหกรรมสีเขียว คือ อุตสาหกรรมที่ยึดมั่นในการปรับปรุงกระบวนการผลิตและการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อการประกอบกิจการ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกับการยึดมั่นในการประกอบกิจการด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งภายในและภายนอกองค์กรตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีและน่าเชื่อถือของโรงงานอุตสาหกรรม และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ประโยชน์ของอุตสาหกรรมสีเขียว

Green Industry มีเป้าหมายในการลดผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกองค์กร และช่วยสร้างประโยชน์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น

  1. ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม

ในอดีตภาคอุตสาหกรรมการผลิตมักถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของการเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและมลพิษต่าง ๆ เนื่องจากโรงงานหลาย ๆ แห่งมักมีการนำของเสียที่ได้จากการผลิตทิ้งลงสู่แม่น้ำ หรือปล่อยควันซึ่งก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ เป็นต้น มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวจะช่วยในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ดังนี้

  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: ก๊าซเรือนกระจก เช่น คาร์บอนไดออกไซด์, มีเทน, ไนตรัสออกไซด์ ฯลฯ ส่วนใหญ่มักเกิดจากขั้นตอนการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม องค์กรที่ได้รับมาตรฐาน Green Industry จะมีการควบคุมขั้นตอนผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การหันมาใช้พลังงานสะอาดหรือการกำจัดขยะอุตสาหกรรมอย่างถูกวิธีเพื่อลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก
  • ลดมลพิษทางอากาศและน้ำ: การผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมยังทำให้เกิดขยะเคมี ที่มักจะถูกกำจัดไม่ถูกวิธี และมีการปนเปื้อนในแหล่งน้ำหรือในอากาศ มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวจะช่วยควบคุมขั้นตอนเหล่านี้ให้ปราศจากการสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
  • อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ: โรงงานอุตสาหกรรมมักใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล รวมถึงหลายครั้งมักมีการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อใช้เป็นทรัพยากร ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียในระยะยาว อุตสาหกรรมสีเขียวจึงช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง และลดความเสียหายต่อธรรมชาติได้
  1. ประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ

ความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นสำคัญระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของทุกคน อุตสาหกรรมต่าง ๆ จึงต้องปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิด Green Industry ซึ่งเป็นการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม การเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมสีเขียวไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างประโยชน์ต่อธุรกิจในหลากหลายด้าน อาทิ

  • สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ : ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้ธุรกิจที่ได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวมีโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
  • เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน: การดำเนินงานตามมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ และช่วยปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การนำวัตถุดิบในการผลิตมาใช้ซ้ำ, การใช้เครื่องจักรคุณภาพสูงในการผลิต ช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการทำธุรกิจและสร้างกำไรในระยะยาวได้มากกว่า
  • สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร: Green Industry ยังเป็นมาตรฐานที่ช่วยเน้นย้ำว่าองค์กรเหล่านั้นมีจิตสำนึกและให้ความสำคัญต่อความยั่งยืน ช่วยให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจมีภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
  1. ประโยชน์ด้านสังคม

นอกเหนือจากประโยชน์ต่อองค์กรแล้ว Green Industry ยังส่งผลดีต่อสังคมและวิถีชีวิตผู้คนโดยรอบย่านอุตสาหกรรมนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • สร้างงานและรายได้ให้กับชุมชน: หลาย ๆ องค์กรอาจมีการว่าจ้างคนในชุมชนเพื่อช่วยคัดแยกหรือจัดการขยะจากการผลิตเพื่อกำจัดอย่างถูกต้อง การบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยสร้างงานให้กับคนในชุมชนใกล้เคียง
  • ปรับปรุงคุณภาพชีวิต: อุตสาหกรรมสีเขียวช่วยลดการเกิดมลพิษปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม เช่น คลองหรือแม่น้ำสายสำคัญที่ผู้คนจำเป็นต้องใช้งาน หรือในอากาศ ช่วยให้ประชาชนในละแวกใกล้เคียงโรงงานอุตสาหกรรมมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสุขภาพที่ดีขึ้น ปลอดภัยจากสารเคมีอันตรายต่าง ๆ
  • ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม: การสนับสนุนกิจกรรมที่ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในองค์กรยังช่วยปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้กับพนักงาน ผู้คนในละแวกใกล้เคียง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องให้ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และช่วยเพิ่มการสร้างสังคมและสภาพแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืน
การคัดแยกขยะ หนึ่งในวิธีการปรับปรุงระบบการทำงานสู่อุตสาหกรรมสีเขียว

Green Industry มีอะไรบ้าง มีกี่ระดับ?

กระทรวงอุตสาหกรรมได้เริ่มดำเนินโครงการ Green Industry ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 โดยผนึกกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมให้สถานประกอบการทั่วประเทศดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และกำหนดเกณฑ์การเข้าร่วมอุตสาหกรรมสีเขียวทั้งหมด 5 ระดับ ได้แก่

  • อุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 1 :  ความมุ่งมั่นสีเขียว (Green Commitment)

Green Commitment เป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นขององค์กรในการกำหนดนโยบาย เป้าหมาย และแผนงาน เพื่อการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การลดมลพิษ การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ฯลฯ โดยมีการสื่อสารอย่างชัดเจนภายในองค์กร

  • อุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 : ปฏิบัติการสีเขียว (Green Activity)

Green Activity คือการดำเนินกิจกรรมที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบต่อธรรมชาติ โดยมีการวางแผนตามนโยบาย เป้าหมาย และแผนงานที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม และมีการสื่อสารให้ทุกคนในองค์กรได้รับทราบและมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน 

  • อุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 3 : ระบบสีเขียว (Green System)

Green System เป็นการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมภายในองค์กรอย่างเป็นระบบ และดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมในทุกขั้นตอน โดยมีการติดตามและประเมินผลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง หรือได้รับรางวัลด้านสิ่งแวดล้อมอันเป็นที่ยอมรับ หรือผ่านการรับรองมาตรฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ

ใบรับรอง Green Industry ระดับ 3 ของบริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน)

โดย KJL หรือบริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าตู้ไฟ รางเดินสายไฟ Wireway, Cable Tray, Cable Ladder และอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าอื่น ๆ ได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ระดับ 3 จากกระทรวงอุตสาหกรรม ที่แสดงถึงมาตรฐานการดำเนินงานที่ใส่ใจความยั่งยืน ควบคู่กับการพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพ แข็งแรง ทนทาน ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วประเทศ

  • อุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 4 : วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture)

Green Culture เป็นการนำนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมมาใช้อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ทุกคนในองค์กรมีจิตสำนึกร่วมกันในการรักษาสิ่งแวดล้อมและร่วมมือกันในทุกด้านของการประกอบการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรอย่างแท้จริง โดยการดำเนินงานควรโปร่งใสและมีจริยธรรม และมีการจัดทำรายงานเพื่อเผยแพร่สู่สาธารณะ

  • อุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 5 : เครือข่ายสีเขียว (Green Network)

Green Network หมายถึงการขยายแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากภายในองค์กรของตนเอง ไปสู่คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) โดยมุ่งเน้นการดำเนินกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมร่วมกัน เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมในวงกว้างให้ประสบความสำเร็จและเป็นที่ประจักษ์

บทสรุปและอนาคตของ Green Industry หรือ อุตสาหกรรมสีเขียว

โรงงานอุตสาหกรรมและต้นไม้ที่สื่อถึง Green Industry

อนาคตของอุตสาหกรรมสีเขียวในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยนโยบายรัฐที่สนับสนุนและส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมหันมาให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น รวมถึงความตระหนักรู้ของผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องเร่งปรับตัวและศึกษาว่า Green Industry คืออะไร เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานว่าสินค้าและกระบวนการผลิตจะไม่ส่งผลกระทบหรือสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศและชุมชนในระยะยาว

KJL คือผู้นำด้านนวัตกรรมด้านสินค้าระบบไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น ตู้ไฟสวิทช์บอร์ด รางวายเวย์ รางเคเบิ้ลเทรย์ รางเคเบิ้ลแลดเดอร์ พูลบ๊อกซ์ สินค้าพลาสติก ABS 100% และอื่น ๆ ที่มุ่งเน้นดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ไม่ว่าจะเป็น การจัดสรรแผ่นเหล็กซึ่งเป็นวัสดุหลักในการผลิตสินค้าให้เหลือเศษวัสดุน้อยที่สุด การนำผงสีฝุ่น Powder Coating ส่วนเกินกลับมาใช้ใหม่ ระบบควบคุมคุณภาพน้ำ การใช้พลังงานทางเลือกแทนพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยติดตั้งแผง Solar Cell สำหรับผลิตไฟฟ้า และเทคโนโลยีอัตโนมัติในทุกกระบวนการทำงาน ซึ่งช่วยลดต้นทุน ลดการปล่อยมลพิษ และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

KJL ผู้นำนวัตกรรมตู้ไฟ รางไฟ ที่ช่างไฟเชื่อมั่น ด้วยเทคโนโลยีการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น
สอบถามข้อมูลสินค้าได้ที่ 

LINE Official Account: @KJL.connect หรือคลิก https://lin.ee/lzVhFfo

Facebook: facebook.com/KJLElectric

Related Article บทความสาระน่ารู้อื่น ๆ

Different types of fire extinguishers

ประเภทถังดับเพลิงแต่ละชนิด A, B, C, D, K ต่างกันยังไง

เหล็กชุบกัลวาไนซ์ คืออะไร

เหล็กชุบกัลวาไนซ์ คืออะไร แตกต่างจากเหล็กทั่วไปอย่างไร

ภาพปกบทความ CNC ย่อมาจากอะไร

CNC ย่อมาจากอะไร ทำไมชิ้นงานส่วนใหญ่ผลิตด้วย CNC