อนาคตของพลังงานไฟฟ้า กับการก้าวหน้าของเทคโนโลยียานยนต์ที่ไม่หยุดยั้ง

2021 - 04 - 23

เมื่อเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกของชีวิตส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาอาศัยไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเป็นหลัก ในส่วนของงานไฟฟ้าจึงจำเป็นต้องพัฒนา ปรับปรุง และเมื่อมีการสร้างโรงไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วประเทศ ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นก็สามารถตอบสนองได้ด้วยไฟฟ้าอย่างทั่วถึง เชื่อได้ว่าในอนาคตพลังงานไฟฟ้าอาจไม่มีที่สิ้นสุดและจะสามารถขับเคลื่อนทุกสิ่งรอบตัวของมนุษย์เพื่อการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้น ซึ่งอีกหนึ่งสิ่งที่เราเห็นได้ชัดคือ พลังงานไฟฟ้าที่เข้ามาขับเคลื่อนวงการยานยนต์ให้พัฒนามากขึ้น โดยการถือกำเนิดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ควรค่าในการขับขี่ ข้อดีในด้านของประโยชน์ส่วนรวมก็คือการมลพิษทางอากาศ ลดฝุ่นควัน อีกทั้งยังเป็นการรักษ์โลกได้อีกด้วย ส่วนของดีแก่ตัวเราเองก็คือสามารถช่วยประหยัดได้เพราะ พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ชาร์จรถยนต์นั้นมีต้นทุนที่ถูกกว่าเชื้อเพลิง

 

พลังงานไฟฟ้าในอนาคต

ในอดีตมีการจำกัดจำนวนสิ่งที่สามารถทำงานด้วยไฟฟ้าได้ แต่ด้วยกระบวนการทางอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีการขนส่งที่เล็งเห็นถึงข้อเสียของเชื้อเพลิงและต้องการที่จะพัฒนาวงการยานยนต์จึงมีการนำพลังงานไฟฟ้าเข้ามามีส่วนร่วมกับรถยนต์ ดังนั้นการใช้ไฟฟ้าในอนาคตที่เห็นได้ชัดมากที่สุดจึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับรถยนต์

รถยนต์จึงเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของการเปลี่ยนแปลงพลังงานไฟฟ้าที่เป็นประโยชน์ ด้วยการปรับปรุงเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงาน ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นทางเลือกที่ใช้งานได้แทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และดูเหมือนว่ากำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วประเทศ รวมถึงทั่วโลกด้วย เพราะผู้คนส่วนใหญ่เริ่มที่จะเปลี่ยนจากรถรุ่นเก่าไปเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ความต้องการในการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง แต่แน่นอนว่ายังมีข้อจำกัดที่เกี่ยวกับสิ่งที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้ ตัวอย่างเช่น สถานีไฟฟ้าที่อาจยังมีไม่มากพอเหมือนปั๊มน้ำมัน จะเห็นได้ชัดว่านวัตกรรมทางเทคโนโลยีล่าสุดที่มีศักยภาพจะทำให้กระบวนการผลิตไฟฟ้ามีเพิ่มมากขึ้น

 

คุณเคยได้ยิน “กริดไฟฟ้า” หรือ Smart Grid บ้างไหม ?

สำหรับบางคนอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่อย่าลืมว่าการพัฒนาของพลังงานไฟฟ้าเดินหน้าอยู่ตลอดเวลาไม่มีวันหยุด กริดไฟฟ้าเป็นเครือข่ายที่ซับซ้อนของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เป็นเครือข่ายสายส่งสถานีย่อยหม้อแปลงไฟฟ้า และอื่น ๆ ที่ส่งกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าไปยังบ้าน หรือธุรกิจ ปัจจุบันประกอบด้วยหน่วยผลิตไฟฟ้ามากกว่า 9,200 หน่วยที่มีกำลังการผลิตมากกว่า 1 ล้านเมกะวัตต์เชื่อมต่อกับสายส่งมากกว่า 300,000 ไมล์ แม้ว่าโครงข่ายไฟฟ้าจะถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรม แต่ในการก้าวไปข้างหน้าเราจำเป็นต้องมีกริดไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อรองรับอุปกรณ์ และเทคโนโลยีดิจิทัลที่เกิดขึ้นมาใหม่อยู่ตลอดเวลา เพื่อจัดการความซับซ้อน และความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น

Smart Grid สามารถเคลื่อนย้ายอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าไปสู่ยุคใหม่ที่พร้อมใช้งาน และเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ซึ่งประโยชน์ที่เราคาดหวังจาก Smart Grid นั่นก็คือ

  • การส่งกระแสไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • สามารถฟื้นฟูไฟฟ้าได้เร็วขึ้นหลังจากไฟฟ้าขัดข้อง
  • ลดต้นทุนการดำเนินงาน และการจัดการสำหรับระบบสาธารณูปโภคและลดค่าไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภค ช่วยลดอัตราค่าไฟฟ้า
  • เพิ่มการรวมระบบพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่
  • ระบบพลังงานหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้นปรับปรุงความปลอดภัยสูงสุด

และอีกหนึ่งสิ่งที่เราจะได้เห็นการพัฒนาขึ้นในอนาคตก็คือ “Green hydrogen” เป็นเทคโนโลยีการสร้างไฮโดรเจน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่มีน้ำหนักเบา และมีปฏิกิริยาสูงผ่านกระบวนการทางเคมีที่เรียกว่าอิเล็กโทรลิซิส ซึ่งจะแยกน้ำบริสุทธิ์ให้ออกมาเป็นก๊าซไฮโดรเจนเพื่อนำไปผลิตกระแสไฟฟ้า ด้วยกระบวนการผลิตพลังงานทดแทน ไฮโดเจนเป็นพลังงานสะอาด หากได้รับกระแสไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนก็จะสามารถผลิตพลังงานได้โดยไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ  Green hydrogen จะช่วยประหยัด CO2 ได้ 830 ล้านตันที่ปล่อยออกมาทุกปี Green hydrogen มีต้นทุนการผลิตที่สูง ซึ่งในต่างประเทศหลายหลายประเทศก็เริ่มที่จะเห็นความสำคัญของการพัฒนา Green hydrogen ที่มากขึ้นเพื่อขับเคลื่อนชีวิต และสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าไปพร้อม ๆ กัน

 

 

เพราะพลังงานไฟฟ้าอยู่รอบตัวเรา

การใช้พลังงานไฟฟ้าจะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานโดยรวมของมนุษย์ทั้งหมด เห็นได้จากความต้องการเชื้อเพลิงในการเผาไหม้ไปสู่ความต้องการใช้ไฟฟ้า ซึ่งหมายความว่าความต้องการเชื้อเพลิงก็จะลดลงในขณะที่ความต้องการไฟฟ้าโดยรวมจะเพิ่มขึ้น หากการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นไปได้ด้วยดีจะสามารถนำไปสู่การลดการปล่อยคาร์บอนของโลกได้อย่างมาก หากใช้พลังงานไฟฟ้าสะอาดที่ผลิตขึ้นจากโรงงานหมุนเวียนก็จะสามารถผลักดันการลดคาร์บอนได้มากขึ้นในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลดีต่อทุกภาคส่วน อีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่าก็คือการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้าของคุณเองในการขับเคลื่อนกระบวนการไฟฟ้า การลดคาร์บอนของโลกเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกตั้งไว้สำหรับปี 2050 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้

เมื่อมนุษย์เรียนรู้ที่จะอยู่กับพลังงานไฟฟ้าก็จะสามารถพึ่งพาอาศัยกันเพื่อขับเคลื่อนชีวิตให้ไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เรารู้จักดึงประโยชน์ของพลังงานไฟฟ้ามาใช้ให้ได้มากที่สุด และอยู่ร่วมกันอย่างปลอดภัย เพราะทุกสิ่งบนโลกใบนี้ต่างก็มีทั้งประโยชน์ และโทษในตัว

KJL มองเห็นความสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคตด้วยพลังงานไฟฟ้า จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้พลังงานไฟฟ้าพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องในแบบที่ไม่มีที่สิ้นสุด ในส่วนของการพัฒนาสินค้าอย่างตู้ไฟ รางไฟ ที่รองรับกับพลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ และเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง