อาชีพช่างไฟฟ้า เป็นอาชีพที่ขยายตนเองได้อย่างรวดเร็ว คนที่เป็นช่างไฟฟ้าจะต้องผ่านการเรียน การอบรมแบบเฉพาะทางเพื่อการปฏิบัติอย่างถูกต้อง ในปัจจุบันช่างไฟถูกแบ่งเป็นหลายประเภทตามงานที่ทำ แน่นอนว่าอาชีพช่างไฟเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากยังเป็นช่างไฟแบบเดิม ๆ ทำงานแบบเดิม ๆ ไม่พัฒนาตนเองก็จะทำให้ผู้ว่าจ้างเราน้อยลง ซึ่งตามการคาดการณ์จากต่างประเทศคาดว่าสาขาช่างเทคนิคไฟฟ้าจะเติบโตขึ้นสูงถึง 9% ระหว่างนี้ไปจนถึงปี 2569 ถึงแม้ว่าตลาดงานสำหรับช่างไฟฟ้าจะมีความผันผวนตามเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่ความต้องการช่างไฟฟ้าจะลดลง หน้าที่หลัก ๆ ของช่างไฟก็คือการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ทดสอบเทียบ และต่อสายไฟเพื่อสร้างระบบไฟฟ้า สามารถการอัปเดตระบบไฟฟ้ารุ่นเก่าเพื่อให้เป็นไปตามปัจจุบันได้ และรู้กฎระเบียบด้านความปลอดภัยที่รัฐกำหนด การซ่อมแซมอุปกรณ์ที่เสีย และให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการส่งกระแสไฟฟ้าให้กับผู้ใช้งาน การประเมินและปรับปรุงระบบไฟฟ้าสำหรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น หรือแม้แต่การปรับเปลี่ยนระบบไฟฟ้าที่มีอยู่ให้เป็นไปตามมาตรฐานสำหรับเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การเรียนรู้ว่าแผงแผงวงจรเต้ารับ และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ควรอยู่ในตำแหน่งใด ทักษะสำคัญที่ช่างไฟจำเป็นต้องมีก็คือ
การวินิจฉัย และซ่อมแซมปัญหาทางไฟฟ้าเป็นงานส่วนใหญ่ของช่างเทคนิค เมื่อการฝึกงาน อบรม หรือการเรียนสิ้นสุดลงในโลกแห่งความจริงการเป็นช่างไฟต้องสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยตัวคุณเองโดยไม่จำเป็นต้องรอถามใคร เพราะในบางครั้งหากช้าแม้แต่นาทีเดียวก็อาจเกิดความสูญเสียได้ การทำความเข้าใจปัญหาไฟฟ้าโดยรวม การเรียนรู้วิธีระบุจุดแข็ง และจุดอ่อนของการแก้ปัญหาเป็นอีกหนึ่งทักษะที่สำคัญสำหรับอาชีพช่างไฟฟ้าที่จะประสบความสำเร็จ
เมื่อช่างไฟได้รับมอบหมายงานผ่านการสื่อสารเป็นลายลักษณ์อักษรไม่ว่าจะเป็นทางกระดาษ หรือทางอีเมล การตีความใบสั่งงานเหล่านี้ และการเขียนสรุปงาน มักเป็นองค์ประกอบที่สำคัญเพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามรายละเอียดงานอย่างถูกต้อง และเพื่อให้ช่างไฟฟ้าคนอื่น ๆ สามารถเข้าใจวิธีการของคุณ การบริหารเวลาเป็นทักษะที่มีค่าอย่างยิ่งสำหรับช่างไฟฟ้าซึ่งต้องสามารถทำงานให้เสร็จตรงเวลา หากจัดการเวลาเป็นจะลดความผิดพลาดในการทำงาน สร้างความประทับใจได้เป็นอย่างดี
การทำงานของช่างไฟฟ้าเน้นลักษณะทางกายภาพมากกว่า เพราะเราต้องใช้ร่างกายเยอะในเวลาปฏิบัติงาน เพียงแต่เตรียมร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะสิ่งที่ช่างไฟจะต้องเจออย่างแน่นอนก็คือ ยืนเป็นเวลานาน ยกอุปกรณ์บางอย่างที่มีน้ำหนักมาก ต้องปีนขึ้นลงบันไดนั่งร้าน และบันไดเหล็กอยู่บ่อยครั้ง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณจะต้องตื่นตัวอยู่ตลอดทั้งวัน
ในวันนี้เราอาจเป็นเพียงแค่ช่างไฟฟ้าทั่วไป แต่ในอนาคตเราอาจเปลี่ยนแปลงไปเป็นผู้รับเหมาอิสระ ดังนั้นทักษะทางธุรกิจจึงเป็นสิ่งที่คุณจะได้รับในการทำงานช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจ เช่น การออกเอกสารต่าง ๆ การจัดการพนักงาน และการวางแผนเชิงกลยุทธ์ จะช่วยให้ช่างเทคนิคไฟฟ้าหลายคนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้างานได้
การผูกมิตรไมตรีของช่างไฟฟ้า และลูกค้า จะมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของตำแหน่ง แต่เนื่องจากงานไฟฟ้าเป็นเรื่องทางเทคนิคทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคลเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจการทำงานของช่างไฟ อย่างไรก็ตามช่างไฟฟ้าต้องสามารถเข้าใจสิ่งที่ต้องทำ และสื่อสารวิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้การสื่อสารที่เข้าใจผู้ใช้งาน เพราะโดยส่วนใหญ่ช่างไฟมักจะต้องพบกับผู้ที่ไม่มีความรู้ในการทำงานเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ช่างไฟฟ้าต้องสามารถฝึกอบรมผู้ใช้งาน และเรียนรู้จากผู้อื่นซึ่งทั้งสองอย่างนี้ต้องใช้ความสามารถในการสื่อสารที่ดี
ทักษะทางเทคนิค และทฤษฎีที่ได้เรียนรู้ในการฝึกอบรมช่างไฟฟ้ามาแล้วนั้น ควรใช้ในงานจริงทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นวิธีตีความกฎการทำงาน เช่น การเดินสายไฟ เรียนรู้วิธีใช้เครื่องมือไฟฟ้าอย่าง อุปกรณ์วัดค่าไฟฟ้า รวมถึงวิธีการติดตั้งอุปกรณ์สวิตชิ่งสายเคเบิลท่อ ท่อร้อยสาย และสายไฟ เข้าใจวิธีการวางแผนและติดตั้งระบบไฟฟ้าสำหรับที่อยู่อาศัย อาคาร สำนักงาน เพราะการเตรียมตัวแต่ละสถานที่ไม่เหมือนกัน เข้าใจกฎและขั้นตอนความปลอดภัยทางไฟฟ้า เลือกใช้อุปกรณ์ดูแลสายไฟอย่างตู้ไฟ รางเก็บสายไฟ ที่มีคุณภาพสูงเพื่อความปลอดภัยในการทำงานไฟฟ้า และผู้ใช้งาน ตู้ไฟ รางไฟ ที่ดีจะต้องทนทานต่อทุกสภาพอากาศ เช่น ทนแดด ทนฝน และไม่ขึ้นสนิมง่าย การเลือกตู้ไฟ รางไฟ ให้เหมาะสมกับงานก็มีส่วนช่วยให้การทำงานของช่างไฟง่ายขึ้น ช่างไฟฟ้าบางคนอาจคิดว่าตู้ไฟแบบไหนก็เหมือนกัน แต่การใช้งานในระยะยาวอาจแข็งแรง ทนทานไม่มากพอ และมีปัญหาตามมาทีหลังได้
ช่างไฟถือเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านงานไฟฟ้า ซึ่งจะเสี่ยงอันตรายมากกว่าคนทั่วไป การเป็นช่างไฟจะต้องมีความรู้ และความชำนาญด้านไฟฟ้าเป็นอย่างดี ทักษะข้างต้นที่เราแนะนำไปนั้นอาจเป็นสิ่งที่ช่างไฟหลายคนคุ้นชินอยู่แล้ว แต่สำหรับช่างไฟมือใหม่แล้วต้องคำนึงให้มาก ๆ เพื่อคุณภาพของงานที่ออกมาดี สามารถสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า เมื่อมีทักษะที่ดีแล้วความปลอดภัยของช่างไฟในการทำงานก็ต้องสำคัญตามมาด้วย สิ่งที่สำคัญคือการมีสติตลอดเวลา รวมไปถึงเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม และได้มาตรฐาน ในการทำงาน ช่างไฟรุ่นพี่ก็สามารถบอกทักษะเหล่านี้ให้กับช่างไฟรุ่นน้องได้ หากช่างไฟใส่ใจเรื่องของการทำงานอย่างครบรอบด้าน ความผิดพลาดก็จะลดน้อยลง