KJL ลงนามแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน คาดเคาะราคา IPO – เปิดจองซื้อ - เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2565 พร้อมชูประสบการณ์ผลิตตู้ไฟ สวิตช์บอร์ดของประเทศมาเกือบ 3 ทศวรรษ เตรียมมุ่งสู่ “ผู้นำนวัตกรรม ตู้ไฟรางไฟ ขับเคลื่อนไฟฟ้า เพื่ออนาคต” รองรับ Digital Economy
นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้นำด้านนวัตกรรมผลิตตู้ไฟ สวิตช์บอร์ด รางเดินสายไฟ และงานโลหะแผ่นแปรรูปสั่งผลิตพิเศษ Sheet Metal Works ด้วยเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น แบบครบวงจร แบรนด์สินค้า KJL และ Made-to-order เปิดเผยว่า หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) แล้ว เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด ได้ลงนามแต่งตั้งให้ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมแต่งตั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย รวม 3 ราย ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) และบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด
ทั้งนี้ คาดว่า KJL จะกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 30 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.86 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท รวมถึงเปิดจองซื้อหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2565 ในหมวดสินค้าอุตสาหกรรม โดยใช้ชื่อหลักทรัพย์ว่า “KJL”
"KJL เป็นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตและเป็นธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์อนาคต โดยทีมผู้บริหารและทีมงานที่มากประสบการณ์และคร่ำหวอดในธุรกิจมานานเกือบ 30 ปี ที่ตลาดอุตสาหกรรม ตลอดจนพันธมิตรระดับโลกรู้จักและให้การยอมรับ ทำให้มั่นใจว่าการเสนอขายหุ้น IPO ของ KJL จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน รวมถึงแผนการลงทุนที่ชัดเจนในการเพิ่มกำลังการผลิตในอนาคต นับเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตต่อเนื่องและยั่งยืน” นายพายุพัด กล่าว
ด้าน นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL กล่าวว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) นับเป็นอีกก้าวความสำเร็จและความภาคภูมิใจในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ก้าวสู่ความเป็นเลิศในอุตสาหกรรม ภายใต้ค่านิยมองค์กร (Core Value) ซึ่งประกอบด้วย FLEXIBLE INNOVATION SPEED และ TRUSTWORTHY เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายและมีความแตกต่างในแต่ละอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย การส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและคุณภาพที่รวดเร็วและตรงเวลา จึงได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้ามาเกือบ 3 ทศวรรษ
ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต, ติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop), ลงทุนศูนย์นวัตกรรม (KJL Innovation Campus) เพิ่มขีดความสามารถด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม, ชำระคืนเงินกู้ในระยะสั้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทและเพิ่มศักยภาพการเติบโตในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2562-2564 มีรายได้จากการขาย 753.67 ล้านบาท 708.18 ล้านบาท และ 845.78 ล้านบาท ตามลำดับ เติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ร้อยละ 5.93 ต่อปี ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 19.49 ล้านบาท 90.97 ล้านบาท และ 94.04 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนงวด 6 เดือนแรกปี 2565 มีรายได้จากการขาย 502.89 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 65.79 ล้านบาท เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2564 ที่มีรายได้จากการขาย 424.92 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 47.87 ล้านบาท
"การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จะช่วยให้ KJL มีศักยภาพในการแข่งขันสูงขึ้น สามารถรองรับการขยายกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น สอดรับกับแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกระแสการใช้พลังงานสะอาดทั่วโลกที่กำลังเติบโต นับเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการสร้างรายได้และทำกำไรในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ ผลักดันให้ผลการดำเนินงานของ KJL เติบโตอย่างก้าวกระโดด รองรับเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Digital Economy ในฐานะผู้นำนวัตกรรม ตู้ไฟรางไฟ ขับเคลื่อนไฟฟ้า เพื่ออนาคตคุณ” นายเกษมสันต์ กล่าว