การดึงสายไฟในกล่องพูลบ๊อกซ์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

Pull Box หรือ กล่องดึงสาย คืออะไร

PullBox หรือกล่องดึงสาย มีหน้าที่ในการดึงสายไฟให้สะดวกต่อการติดตั้ง และเดินสายไฟ ประโยชน์หลักของกล่องพูลบ๊อกซ์ก็คือ ช่วยลดความซับซ้อนในการดึงสายไฟ สะดวกต่อการทำงานของช่างไฟ และจัดระเบียบของสายไฟเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดจากไฟฟ้า โดยพูลบ๊อกซ์มีความสำคัญเทียบเท่ากับ ตู้ไฟ รางไฟ เพราะเป็นส่วนที่อยู่ใกล้ชิดกับสายไฟโดยตรงเช่นเดียวกัน

การคำนวนขนาดของพูลบ๊อกซ์แต่ละแบบ

เนื่องจากว่าแต่ละพื้นที่ในการดึงสายไฟอาจไม่ง่ายเสมอไป ในการเลือกใช้กล่องพูลบ๊อกซ์ก็จะแตกต่างกันในเรื่องของขนาด เพราะต้องเป็นไปตามความเหมาะสมในการใช้งานเพื่อป้องกันไม่ให้ฉนวนของสายไฟฟ้าเสียหาย และปกป้องดูแลสายไฟในระยะยาว ในการหาขนาดของกล่องพูลบ๊อกซ์จะขึ้นอยู่กับการดึงสายไฟ โดยการดึงสายไฟจะถูกแบ่งออกเป็น 3 แบบหลัก ๆ  คือ

1. การดึงสายทางตรง (Straight Pulls)

ในการดึงสายไฟทางตรงผ่านกล่องพูลบ๊อกซ์ ความยาวของกล่องพูลบ๊อกซ์จะต้องไม่น้อยกว่า 8 เท่าของขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อร้อยสายไฟที่ใหญ่ที่สุด วิธีการคำนวนเพื่อหาขนาดของพูลบ๊อกซ์ก็คือคูณขนาดของท่อร้อยสายเส้นที่ใหญ่ที่สุดด้วยเลข 8 ก็จะได้ขนาดของกล่องพูลบ๊อกซ์ที่ต้องการใช้ ข้อดีของกล่องพูลบ๊อกซ์คือ สะดวกในการดึงสายไฟให้ทำงานง่าย และเร็วยิ่งขึ้น , ช่วยลดแรงเสียดทานสำหรับสายไฟ ในการการติดตั้งกล่องพูลบ๊อกซ์ หรือกล่องดึงสายตลอดทางยังช่วยให้ป้องกันฉนวนของสายไฟฟ้าเสียหายได้

2. การดึงสายแบบหักเลี้ยว (Angle Pulls)

กล่องพูลบ๊อกซ์เป็นกล่องที่ใช้ในการดึงสายไฟภายในอาคาร บ้านเรือน โดยสามารถเปลี่ยนทิศทางของสายไฟให้หักเลี้ยวได้ตามความเหมาะสมของพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นขอบเสา หรือมุมตึก โดยการคำนวนหาขนาดของกล่องพูลบ๊อกซ์จะมีความซับซ้อนขึ้นอีกระดับหนึ่ง เพราะระยะห่างระหว่างท่อร้อยสายไปจนถึงผนังฝั่งตรงข้ามของกล่องพูลบ๊อกซ์ จะต้องมีระยะไม่น้อยกว่า 6 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อที่ใหญ่ที่สุด และเมื่อรวมกับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อที่เหลือที่ต้องเข้าสู่ผนังของกล่องในแนวเดียวกัน

หรือคูณขนาดของท่อร้อยสายที่ใหญ่ที่สุดด้วย 6 แล้วนำมาบวกกับขนาดของท่อร้อยสายที่เหลืออยู่บนด้านเดียวกันเข้าด้วยกัน จากนั้นนำผลลัพธ์ทั้งสองมาบวกกันโดยที่ความยาวของกล่องดึงสายต้องไม่น้อยกว่าผลลัพธ์ที่นำมาบวกกันแล้ว

3. การดึงสายแบบวนกลับ (U Pulls)

ในการดึงสายไฟแบบวนกลับจะค่อนข้างซับซ้อนกว่าวิธีดึงสายไฟแบบอื่น ๆ ต้องใช้ความแม่นยำในการคำนวณในระดับหนึ่ง โดยด้านข้างของกล่องพูลบ๊อกซ์จะต้องมีขนาดเป็น 6 เท่าของของเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อร้อยสาย ก็คือการคูณขนาดของท่อร้อยสายที่ใหญ่ที่สุดด้วย 6 จากนั้นให้นำมาบวกกับขนาดของท่อร้อยสายที่เหลืออยู่ในแถวเดียวกันเข้าด้วยกัน ซึ่งความยาวของกล่องพูลบ๊อกซ์จะต้องไม่น้อยกว่าผลลัพธ์ข้างต้นที่คำนวนได้

Pull Box จะช่วยให้ทำให้การติดตั้งสายไฟง่ายขึ้นจะมีรูปลักษณ์เหมือนกับกล่องรวมสัญญาณ ซึ่งโดยทั่วไปมักจะทำจากแผ่นโลหะ แต่กล่อง Pull Box ของ KJL จะทำจากเหล็กแผ่นขาวคุณภาพสูงโดยมีความหนาที่ 0.8 mm. ที่ช่วยให้การเดินสายไฟยาว ๆ สามารถทำได้ไม่ยุ่งยาก ไม่เสียเวลาช่างไฟ โดยสามารถใช้ได้สำหรับการดึงสายไฟทั้งแบบตรง และแบบทำมุมก็คือมุมห้อง โดยกล่อง Pull Box ของ KJL สามารถออกแบบได้ให้ตรงกับการใช้งาน พ่นสีได้ มีหลายขนาด ซึ่งออกแบบ และควบคุมการผลิตทั้งหมดผ่านกระบวนการคอมพิวเตอร์ CNC เคลือบผิว พ่นด้วยสีฝุ่น Epoxy Powder Coatings มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกล่อง Pull Box เป็นเพียงจุดเชื่อมต่อสำหรับการดึงสายไฟ ขนาดของกล่อง Pull Box ขึ้นอยู่กับขนาด และจำนวนของตัวนำ และเส้นผ่านศูนย์กลาง สำหรับตัวนำไฟฟ้า

KJL ผู้นำนวัตกรรมตู้คอนโทรล รางครอบสายไฟ ที่ช่างไฟเชื่อมั่น ด้วยเทคโนโลยีการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น สอบถามข้อมูลสินค้าได้ที่ 

LINE Official Account: @KJL.connect หรือคลิก https://lin.ee/lzVhFfo

Facebook: facebook.com/KJLElectric