3 ความเสี่ยงของอาชีพช่างไฟฟ้าที่คุณควรรู้

สำหรับอาชีพช่างไฟฟ้าถือเป็นอาชีพที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถเฉพาะทางที่ค่อนข้างยาก รวมถึงต้องมีทักษะในการทำงานที่จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์ในการทำงานเพื่อมาปรับใช้ จะเห็นได้ว่าอาชีพช่างไฟฟ้าคืออาชีพที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เพราะในบางครั้งช่างไฟมักจะต้องเข้าไปในที่แคบเพื่อดูแลตู้ไฟ หรือปีนขึ้นไปบนที่สูงเพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง ในบางครั้งอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจไม่ว่าจะเป็นการลื่นล้ม ตกจากที่สูง หรือไฟไหม้ ไฟฟ้าช็อต ไฟฟ้าลัดวงจร ไฟอาร์ก และการสัมผัสกับสารพิษ ตลอดจนความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการทำงานในพื้นที่จำกัดจะขนาดเล็กหรือกลางแจ้งก็ตามต่างก็มีเงื่อนไขแตกต่างกัน 

มีผู้เชี่ยวชาญเคยบอกไว้ว่าอันตรายจากไฟฟ้าไม่ได้เกิดขึ้นเท่ากันทุกครั้ง โดยทั่วไปแล้วอันตรายจะแตกต่างกันไป จากข้อมูลของ ESFI มูลนิธิความปลอดภัยทางไฟฟ้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกาพบว่า 36% ของการบาดเจ็บที่เกิดจากไฟฟ้าจนเสียชีวิตมักเกี่ยวข้องกับสายไฟเหนือศีรษะ จึงจำเป็นจะต้องเปลี่ยนความคิดครั้งใหญ่ให้กับนายจ้างให้ตระหนักถึงอันตรายจากไฟฟ้าในที่ทำงานมากขึ้น

อาชีพช่างไฟฟ้าควรระวังความเสี่ยงดังต่อไป

1.อาชีพช่างไฟฟ้าไม่ถูกกับน้ำ

อย่างที่เราทราบกันดีว่าน้ำกับไฟเป็นสิ่งที่ไม่ถูกกัน ในบางครั้งที่อาชีพช่างไฟฟ้ามักได้รับมอบหมายให้ทำงานบนที่สูงอย่างหลังคาหรืออะไรก็ตาม หรืออาจต้องใกล้สายไฟที่อยู่เหนือศีรษะ ช่างไฟก็ยังต้องเดินสายไฟในห้องใต้หลังคา และเพดาน ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการหกล้ม และตกจากที่สูงมากขึ้น ควรเตรียมสภาพร่างกายในพร้อมก่อนเริ่มปฏิบัติการเสมอ รวมถึงสำรวจพื้นที่ก่อนการทำงานเพื่อความปลอดภัย หลีกเลี่ยงการฉีดน้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดของเหลวใกล้สายไฟ

2.อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด

เรามักจะบอกเสมอว่าช่างไฟเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงเพราะต้องอยู่กับไฟฟ้าตลอดเวลา ไฟฟ้าช็อตเป็นหนึ่งในการบาดเจ็บที่รุนแรงที่สุดที่อาชีพช่างไฟฟ้าต้องเผชิญ หลีกเลี่ยงยากต้องใช้ความระมัดระวังสูง โดยภาวะแทรกซ้อนจากการบาดเจ็บจากไฟช็อตจะทำให้ หายใจลำบาก อาจร้ายแรงไปถึงหัวใจหยุดเต้นที่ทำให้เสียชีวิต หรือเป็นอัมพาตได้ในบางกรณี วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงเชิงป้องกันไฟฟ้าช็อต เพื่อปลอดภัยเมื่อทำงานกับไฟฟ้าควรสวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ หมวกนิรภัย ที่ปิดหู และแว่นตา ก่อนที่คุณจะทำงานไฟฟ้าทุกรูปแบบควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวนำไฟฟ้า และชิ้นส่วนวงจรทั้งหมดอยู่ในสภาพการทำงานที่ปลอดภัย เพื่อลดโอกาสในการสัมผัสทางไฟฟ้า ลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บให้ตัวของช่างไฟ อุปกรณ์ของช่างไฟควรอยู่ห่างจากสายไฟเหนือศีรษะอย่างน้อย 10 ฟุต และอย่าแตะต้องกับสายไฟโดยตรง

ไฟฟ้าเป็นพลังงานที่ทรงพลังและจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน แต่หากช่างไฟขาดความระมัดระวัง หรือใช้งานไม่ถูกวิธีก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่นเดียวกับการขับขี่รถยนต์ การเช่ารถยนต์ที่สภาพดีและได้รับการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางได้ การดูแลเรื่องความปลอดภัยทั้งในเรื่องไฟฟ้าและการขับขี่ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องให้ความใส่ใจ เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด

3.บาดแผลที่รักษาไม่หาย

ไฟไหม้อาจเชื่อมโยงมาจากไฟช็อต ไฟฟ้าลัดวงจร โดยทำให้แผลไหม้ที่เกิดจากไฟฟ้าโดยเป็นรูปแบบหนึ่งของการบาดเจ็บที่ผิวหนังที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าเท่านั้น และโดยทั่วไปแล้วความเสียหายจะจำกัดอยู่ที่พื้นผิวเท่านั้น แต่ในสถานการณ์ที่รุนแรงกว่านั้น ไฟฟ้าช็อตอาจส่งผลให้เนื้อเยื่อส่วนลึก หรือเส้นประสาทบาดเจ็บ 

ข้อควรปฏิบัติเพื่อหนีความเสี่ยง เมื่อทำอาชีพช่างไฟฟ้า

สำหรับช่างไฟแล้วโดยส่วนใหญ่จะต้องผ่านโปรแกรมการฝึกอบรมอาชีพช่างไฟฟ้าเพื่อการทำงานที่มีคุณภาพ และปลอดภัย ช่างไฟจะต้องได้รับการสอนเกี่ยวกับความปลอดภัยในอุตสาหกรรมที่ต้องเปลี่ยนแปลงพื้นที่การทำงานตลอดเวลา โดยช่างไฟจะมีโอกาสทำงานกับอุปกรณ์พร้อมเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และเรียนรู้เกี่ยวกับขั้นตอนความปลอดภัยสำหรับทุกสถานการณ์ก่อนเริ่มปฏิบัติงาน ประสบการณ์ตรงเป็นสิ่งล้ำค่าเมื่อถึงเวลาลงสนามจริงในโปรแกรมการฝึกอบรมช่างไฟฟ้าที่ดี ช่างไฟจะได้รับประสบการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงมากมายที่สอนทักษะที่จำเป็นในงานไฟฟ้า ตั้งแต่การแก้ไขไปจนถึงการจัดการกับเหตุฉุกเฉินที่มีความเสี่ยงถึงชีวิตโดยอาจขึ้นอยู่กับการกระทำ หรือการตัดสินใจของช่างไฟในช่วงเวลาวิกฤติครั้งแรกเหล่านั้น ที่สำคัญคือการเป็นช่างไฟต้องมีใบอนุญาตของช่างไฟฟ้าจะทำให้สามารถเป็นช่างไฟได้อย่างยืนยาว หากไม่มีใบรับรองระวังถูกปรับสูงถึง 5,000 บาท ความสำคัญของใบรับรองสำหรับช่างไฟคือใบที่รับประกันความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเป็นช่างไฟที่มีความรู้ ความสามารถ และเชี่ยวชาญด้านงานไฟโดยเฉพาะซึ่งเป็นผลดีทั้งนายจ้าง และตัวของช่างไฟเอง สร้างความเชื่อใจ และทำให้ลูกค้าไว้วางใจในระยะยาวอีกด้วยที่สำคัญคือนายจ้างจะต้องจัดหาการฝึกอบรมให้กับช่างไฟเมื่อเริ่มต้นเส้นทางสู่การเป็นช่างไฟฟ้า หรือการผ่านการสอบใบอนุญาตของรัฐ นายจ้างควรมีการประชุมทุกสัปดาห์กับช่างไฟฟ้าเกี่ยวกับการป้องกันแรงกระแทก อุบัติเหตุจากการปฏิบัติงานบนที่สูง และเหตุการณ์ในชีวิตจริงอื่นๆ เกี่ยวกับการเป็นช่างไฟฟ้า 

และการลดความเสี่ยงของอาชีพช่างไฟฟ้าที่สำคัญคือการเลือกใช้อุปกรณ์ในการทำงานที่มีคุณภาพ ที่คำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง อย่าง ตู้ไฟ รางไฟ KJL ที่ใช้ประสบการณ์กว่า 35 ปี ในการดำเนินงานเพื่อผลิตตู้ไฟ รางไฟ ที่ดีให้กับช่างไฟ ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับสากล มีความแม่นยำ และสามารถยืดหยุ่นได้ตามการใช้งาน ใช้เทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด   มากไปกว่านั้นยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่องและการให้บริการอย่างรวดเร็ว ตรงตามความต้องการ และมีประสิทธิภาพ โดยใช้หลักการเดียวกันกับการเรียนรู้ของช่างไฟที่ต้องสั่งสมวิชาความรู้เพื่อให้เชี่ยวชาญในการทำงานให้ได้มากที่สุด ที่สำคัญคือยึดหลักสั่งด่วนได้เร็วแบบเอาใจช่างไฟให้ไม่ต้องรอนาน และสามารถจบงานไว ไร้ปัญหากวนใจ