ป้ายสัญลักษณ์ความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม Safety Sign

การทำงานในพื้นที่ก่อสร้างหรือโรงงานอุตสาหกรรม ความปลอดภัย ถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำงาน ดังนั้น ภายในพื้นที่จึงจำเป็นต้องมีการติดตั้งเครื่องหมายความปลอดภัยในโรงงาน เพื่อระบุข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามที่ต้องทำตามอย่างเคร่งครัด

บทความนี้จะพามาทำความเข้าใจถึงความสำคัญของป้ายสัญลักษณ์ความปลอดภัยในโรงงาน รวมถึงความหมายของป้ายแต่ละประเภทที่ผู้ปฏิบัติงานควรรู้

ป้ายสัญลักษณ์ความปลอดภัยในโรงงาน คือ?

ป้ายสัญลักษณ์ความปลอดภัย คือสัญลักษณ์ที่ใช้ระบุข้อควรปฏิบัติ ข้อห้าม และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยแก่ผู้ปฏิบัติงานในสถานที่นั้น โดยป้ายเหล่านี้มักถูกติดตั้งในบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เขตก่อสร้าง หรือใช้เป็นสัญลักษณ์ในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น

ป้ายสัญลักษณ์ความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม มีกี่ประเภท?

เนื่องจากแต่ละพื้นที่ปฏิบัติงานมีความเสี่ยงและข้อกำหนดที่แตกต่างกัน บางพื้นที่อาจต้องห้ามการกระทำบางอย่างเพื่อความปลอดภัย รวมถึงบางพื้นที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยเครื่องหมายความปลอดภัยในโรงงาน สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

  • เครื่องหมายห้าม (Prohibition Sign)

เครื่องหมายห้าม เป็นสัญลักษณ์ในโรงงานที่ใช้ระบุสิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดในพื้นที่นั้น ๆ เพื่อความปลอดภัยของผู้คนโดยรอบ เช่น ป้ายห้ามก่อให้เกิดประกายไฟในพื้นที่ที่มีวัตถุไวไฟ ป้ายห้ามบุคคลภายนอกเข้าพื้นที่ก่อนได้รับอนุญาต ป้ายห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น

  • เครื่องหมายบังคับ (Mandatory Sign)

เครื่องหมายบังคับ คือสัญลักษณ์ที่ใช้ระบุข้อควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เช่น ป้ายระบุให้สวมหมวกนิรภัยก่อนเข้าพื้นที่เสี่ยง หรือป้ายระบุให้สวมหน้ากากป้องกันสารพิษ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการบาดเจ็บหรืออันตรายต่อสุขภาพ

  • เครื่องหมายเตือน (Warning Sign)

เครื่องหมายเตือน เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้เพื่อแจ้งเตือนผู้ปฏิบัติงานให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ ในบริเวณที่เคยเกิดอุบัติเหตุหรือมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เช่น ป้าย “ระวังพื้นลื่น” หรือ “ระวังไฟฟ้าแรงสูง” เพื่อสร้างการตระหนักรู้และกระตุ้นให้เกิดความระมัดระวังตลอดเวลา

  • เครื่องหมายแสดงภาวะปลอดภัย (No danger Sign)

เครื่องหมายแสดงภาวะปลอดภัย นิยมติดตั้งในจุดที่มีความปลอดภัยสูง เช่น ทางหนีไฟ จุดรวมพล จุดปฐมพยาบาล เพื่อเป็นสัญลักษณ์ความปลอดภัยในโรงงานหรือพื้นที่ก่อสร้าง ให้ผู้ปฏิบัติงานรับทราบและเคลื่อนย้ายไปได้อย่างรวดเร็ว

ความหมายของป้ายสัญลักษณ์ความปลอดภัยในโรงงาน

สัญลักษณ์ในโรงงานจะถูกแบ่งออกเป็นสีต่าง ๆ เพื่อสื่อถึงความหมายที่แตกต่างกัน โดยแต่ละสีมีความหมายดังนี้

  • สีแดง (Red): ป้ายห้าม

ป้ายเครื่องหมายความปลอดภัยในโรงงานสีแดง มีความหมายว่า “ห้าม” หรือ “หยุด” การกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงโดยเด็ดขาด เช่น ป้ายห้ามก่อประกายไฟ ป้ายห้ามสูบบุหรี่ ป้ายห้ามเข้า เป็นต้น

โดยป้ายประเภทนี้จะมี พื้นหลังสีขาว สัญลักษณ์สีดำ และมีวงกลมขอบสีแดงพร้อมเส้นทแยงมุมสีแดงพาดผ่าน ซึ่งเป็นการสื่อความหมายของการ “ห้าม” หรือ “ไม่” อย่างชัดเจน

ป้ายห้ามก่อประกายไฟ ในบริเวณเขตก่อสร้าง
  • สีเหลือง (Yellow): ป้ายเตือนให้ระวัง

ป้ายสัญลักษณ์ความปลอดภัยสีเหลือง เป็นการบ่งชี้ถึงอันตรายทางกายภาพ อาทิ ระวังพื้นลื่น ระวังอันตรายจากไฟฟ้าแรงสูง หรือระวังวัตถุตก โดยมักจะติดตั้งในบริเวณที่มีความเสี่ยง เช่น บริเวณรอบ ๆ หม้อแปลงไฟฟ้า บริเวณไซต์งานก่อสร้าง เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ จะใช้สัญลักษณ์หรือข้อความสีดำบนพื้นเหลือง

ป้ายเตือนให้ระวังรั้วไฟฟ้า
  • สีน้ำเงิน (Blue): ป้ายบังคับให้ปฏิบัติ

ป้ายสีน้ำเงิน เป็นสัญลักษณ์ความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรมหรือพื้นที่ก่อสร้าง ที่กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานต้องทำตามอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย หรือให้ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ เช่น ต้องสวมหมวกนิรภัย ต้องสวมแว่นตานิรภัย ต้องเดินในช่องทางที่กำหนด ฯลฯ โดยใช้สัญลักษณ์หรือข้อความสีขาวบนพื้นน้ำเงิน

ป้ายสัญลักษณ์ความปลอดภัยในโรงงานที่ระบุให้ต้องสวมหมวกและเสื้อนิรภัย
  • สีเขียว (Green): ป้ายความปลอดภัย

สัญลักษณ์สีเขียว หมายถึง สภาวะปลอดภัย หรือ จุดปลอดภัยที่สามารถเข้าถึงได้ในกรณีฉุกเฉิน ตัวอย่างเช่น ทางหนีไฟ, ทางออกฉุกเฉิน, จุดรวมพล, หรืออุปกรณ์ปฐมพยาบาล ป้ายเหล่านี้มักติดตั้งในพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูง หรือในสถานที่โล่ง ในกรณีที่ระบุถึงจุดรวมพล โดยจะใช้พื้นหลังสีเขียว และมีสัญลักษณ์หรือข้อความเป็นสีขาว ในป้ายรูปร่างสี่เหลี่ยม

ป้ายทางออกฉุกเฉินในโรงงานอุตสาหกรรม

ประโยชน์ของป้ายสัญลักษณ์ความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม

  • ช่วยระบุข้อปฏิบัติและข้อห้ามอย่างชัดเจน: เครื่องหมายความปลอดภัย ในโรงงานหรือพื้นที่เสี่ยงจะระบุข้อควรปฏิบัติ ข้อห้าม รวมถึงข้อควรรู้อื่น ๆ อย่างชัดเจน เพื่อให้พนักงานปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องโดยไม่เกิดความสับสน
  • ลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน: การปฏิบัติตามป้ายสัญลักษณ์อย่างเคร่งครัดจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายระหว่างปฏิบัติงาน และช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่เกิดอุปสรรคที่ทำให้การทำงานล่าช้าลง
  • เป็นไปตามข้อกฎหมายและมาตรฐาน: ตาม พรบ. ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 ได้ระบุให้นายจ้างต้องติดป้ายสัญลักษณ์ความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรมหรือพื้นที่ปฏิบัติงานต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานสากล ในจุดที่เห็นชัด อ่านง่าย เพื่อความปลอดภัยของลูกจ้าง

ป้ายสัญลักษณ์ความปลอดภัยในโรงงานที่ดี ควรมีลักษณะอย่างไร?

  • ถูกต้องและเหมาะสมกับสถานที่

เครื่องหมายความปลอดภัยในโรงงาน ควรใช้สัญลักษณ์ สี และรูปร่างตามมาตรฐานที่กำหนด เช่น ISO 7010 หรือ มอก. 635-2554 เพื่อไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด รวมถึงใช้ขนาดป้ายที่ใหญ่เพียงพอต่อระยะการมองเห็น ให้ทุกคนสามารถปฏิบัติตามข้อมูลด้านความปลอดภัยได้อย่างรวดเร็ว

  • ใช้ภาษาที่ชัดเจนและรัดกุม

ป้ายสัญลักษณ์ความปลอดภัยควรใช้คำที่สั้น ชัดเจน ตรงประเด็น เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานอ่านแล้วเข้าใจได้ทันที ยกตัวอย่างเช่น ควรใช้คำว่า “ระวังไฟฟ้าแรงสูง” แทนคำว่า “ระวังอันตราย” ที่กว้างเกินไป เพราะอาจทำให้ผู้ปฏิบัติงานไม่สามารถตอบสนองต่ออันตรายได้อย่างถูกต้อง หากมีพนักงานต่างชาติ ควรพิจารณาใช้ภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ กำกับไว้ด้านล่าง เพื่อให้พนักงานทุกคนเข้าใจตรงกัน และช่วยลดความสับสนหรือเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นได้

  • ดึงดูดสายตาและมองเห็นง่าย

ป้ายสัญลักษณ์ความปลอดภัยควรติดตั้งในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจน เช่น บริเวณรั้วทางเข้าไซต์งาน หรือจุดที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานระมัดระวังได้ทันที โดยติดตั้งบนพื้นผิวที่เรียบและมีสีพื้นไม่รบกวนสายตา เช่น สีขาวหรือสีอ่อน เพื่อให้สัญลักษณ์โดดเด่นชัดเจน

นอกจากนี้ ควรเลือกใช้สัญลักษณ์ที่เข้าใจง่าย เช่น รูปหัวกะโหลก (สารพิษ/อันตรายถึงชีวิต) หรือเครื่องหมายกัมมันตรังสี ซึ่งสามารถสื่อสารอันตรายได้ชัดเจนกว่าข้อความล้วน

  • ดูแลสัญลักษณ์ให้อยู่ในสภาพดีเสมอ

บางครั้งหากป้ายสัญลักษณ์ในโรงงานเกิดซีดจาง หรือเสียหาย อาจทำให้ผู้ปฏิบัติงานไม่ทราบว่าควรต้องระวังหรือห้ามทำอะไร ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอันตรายร้ายแรงตามมา นายจ้างหรือสถานประกอบการจึงควรตรวจสอบว่าป้ายสัญลักษณ์เหล่านี้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกจ้างหรือพนักงานจะทำตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด

มาตรฐานสัญลักษณ์ความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม

มาตรฐานสัญลักษณ์ความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสื่อสารข้อมูลที่จำเป็น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย โดยมาตรฐานหลัก ๆ ที่นำมาใช้กันอย่างแพร่หลายมีดังนี้

  • มาตรฐาน มอก.635-2554

มอก. 635-2554 คือ มาตรฐานที่เกี่ยวกับเครื่องหมายเพื่อความปลอดภัย ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดหลักการออกแบบและใช้ป้ายสัญลักษณ์ความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรมหรือพื้นที่สาธารณะให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน การปฏิบัติตามมาตรฐานนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ

  • มาตรฐาน ISO 3864

ISO 3864 คือหลักเกณฑ์ในการออกแบบป้ายและฉลากความปลอดภัย ให้มีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก เพื่อช่วยลดอุปสรรคทางภาษาในการสื่อสาร รวมถึงสร้างกฎระเบียบที่ชัดเจน โดยครอบคลุมองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น สีเพื่อความปลอดภัย รูปร่างของป้าย สัญลักษณ์ คำเตือน หลักการจัดวาง คุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ทำป้าย เป็นต้น

  • มาตรฐาน ISO 7010

ISO 7010 ถูกพัฒนามาจากมาตรฐาน ISO 3864-1 เพื่อให้หลักการออกแบบเครื่องหมายความปลอดภัยในโรงงานครอบคลุมและแม่นยำยิ่งขึ้น ได้แก่ การเพิ่มสีแดงให้ใช้กับป้ายบ่งชี้อุปกรณ์ดับเพลิง การเพิ่มสีเหลืองในความหมายของอันตราย (Hazard) การกำหนดรูปร่างของป้ายที่เฉพาะเจาะจงเพื่อสื่อความหมายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น วงกลมสำหรับป้ายห้าม/บังคับ, สามเหลี่ยมสำหรับป้ายเตือน และสี่เหลี่ยมสำหรับป้ายแสดงสภาวะปลอดภัย รวมถึงการใช้สีตัดที่ช่วยให้ป้ายมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น

  • มาตรฐาน ANSI Z535

ANSI Z535 คือมาตรฐานที่กำหนดขึ้นเพื่อสร้างระบบการสื่อสารข้อมูลด้านความปลอดภัยให้เป็นรูปแบบเดียวกัน โดยจะเน้นการใช้ “Signal Words” (เช่น DANGER, WARNING, CAUTION) เพื่อระบุระดับความอันตรายอย่างชัดเจน พร้อมด้วยคำอธิบายเกี่ยวกับอันตรายหรือผลที่ตามมาที่อาจเกิดขึ้น นิยมใช้อย่างแพร่หลายในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา

สัญลักษณ์ความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม พื้นที่ก่อสร้าง และพื้นที่สาธารณะ จะช่วยให้สามารถควบคุมความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน ลดความเสี่ยงในการเกิดอันตราย โดยเฉพาะในงานด้านระบบไฟฟ้าที่จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังสูงในการติดตั้ง นอกจากการปฏิบัติตามสัญลักษณ์ความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดแล้ว ควรเลือกใช้อุปกรณ์สำหรับติดตั้งอย่างราง Cable Tray ที่มีความแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักสายไฟจำนวนมากได้ดี ช่วยระบายความร้อน และช่วยให้ช่างซ่อมบำรุงปฏิบัติงานได้สะดวกขึ้น

มองหาอุปกรณ์ติดตั้งระบบไฟฟ้าอุตสาหกรรมที่แข็งแรง ปลอดภัย ได้มาตรฐาน เลือก KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ตู้ไฟสวิตช์บอร์ด รางวายเวย์ รางเคเบิ้ลเทรย์ เคเบิ้ลแลดเดอร์ กล่องดึงสาย และชิ้นงานโลหะสั่งผลิตพิเศษ ที่ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพพรีเมียม แผ่นเหล็กขาวและแผ่นเหล็กดำ เต็มแผ่น พร้อมเคลือบผิวด้วยสีฝุ่น Electrostatic Powder Coatings มาตรฐาน Jotun ให้สีสวยสด ทนทาน ติดแน่น ช่วยป้องกันสนิมและยืดอายุการใช้งานได้อย่างยาวนาน

KJL ผู้นำนวัตกรรมตู้ไฟ รางไฟ ที่ช่างไฟเชื่อมั่น ด้วยเทคโนโลยีการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น
สอบถามข้อมูลสินค้าได้ที่ 

LINE Official Account: @KJL.connect หรือคลิก https://lin.ee/lzVhFfo

Facebook: facebook.com/KJLElectric

Related Article บทความสาระน่ารู้อื่น ๆ

สารหน่วงไฟ Flame Retardant คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไร

ASTM คืออะไร?

ASTM คืออะไร? มีความสำคัญอย่างไรต่อธุรกิจภาคอุตสาหกรรม

Rapid Shutdown คืออะไร? จำเป็นอย่างไรต่อโซลาร์เซลล์

Rapid Shutdown คืออะไร? จำเป็นอย่างไรต่อโซลาร์เซลล์