ปัญหาอัคคีภัยถือเป็นอุบัติเหตุอันดับต้น ๆ ที่มักเกิดขึ้นในโรงงานอุตสาหกรรม โดยจากข้อมูลสถิติของกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ในปี 2567 พบว่าอัคคีภัยเป็นเหตุที่เกิดบ่อยสุด จำนวน 107 ครั้ง คิดเป็นประมาณ 75% อีกทั้งแนวโน้มการเกิดอัคคีภัยยังสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีรายงานว่าสูงที่สุดในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา สาเหตุหลัก ๆ มักเกิดจากการเสื่อมสภาพของเครื่องจักร ไฟฟ้าลัดวงจร กระบวนการผลิตที่ใช้ความร้อน และการจัดเก็บวัตถุดิบที่ติดไฟง่ายเป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงการขาดการประเมินความเสี่ยงและอุปกรณ์ดับเพลิงที่เหมาะสมด้วย
โดยอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ โรงซ่อมเครื่องจักร โกดังเก็บสินค้า โรงงานพลาสติกและยาง โรงงานโลหะ โรงงานอาหาร รวมถึงโรงไฟฟ้าที่มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างมาก การเกิดอัคคีภัยยังส่งผลกระทบต่อหลาย ๆ ภาคส่วน ทั้งความเสียหายของอุปกรณ์ อาคารต่าง ๆ รวมถึงอันตรายต่อชีวิต จึงจำเป็นต้องมีการป้องกันอัคคีภัยในโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยง รวมถึงความรุนแรงของอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
บทความนี้จะพามาทำความรู้จักกับ 15 มาตรการป้องกันอัคคีภัยโรงงานที่ผู้ประกอบการควรรู้ พร้อมวิธีป้องกันหรือการเตรียมพร้อมที่จำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัยหรือผลกระทบรุนแรงในอนาคต
15 วิธีป้องกันและมาตรการป้องกันอัคคีภัยในโรงงาน
การป้องกันอัคคีภัย ในโรงงานอุตสาหกรรม คือมาตรฐานที่หลาย ๆ หน่วยงานควรปฏิบัติตาม เพื่อให้สามารถลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. เริ่มวางแผนขั้นตอนการป้องกันอัคคีภัย
ขั้นตอนแรก ผู้ประกอบการควรทำความเข้าใจ ศึกษาในมาตรการป้องกันอัคคีภัยโรงงานอย่างถี่ถ้วน ตั้งแต่การเลือกติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงให้เหมาะสม การวางโครงสร้างหรือแผนผังทางหนีไฟให้มีความปลอดภัย รวมถึงการเลือกติดตั้งวัสดุโครงสร้างที่มีคุณสมบัติกันไฟตามกฎหมายกำหนด
2. จัดให้มีแผนป้องกันและระงับอัคคีภัย
ผู้ประกอบการควรจัดแผนการป้องกันอัคคีภัยในโรงงาน ตั้งแต่การตรวจตราอาคารอย่างสม่ำเสมอ การอบรมพนักงานให้มีความพร้อมในสถานการณ์ฉุกเฉิน การรณรงค์ด้านการป้องกันอัคคีภัย รวมถึงการบรรเทาทุกข์และฟื้นฟูความเสียหายหลังเกิดเหตุไม่คาดฝัน
3. จัดให้มีช่องทางหรือเส้นทางหนีไฟ
ควรจัดให้มีช่องทางหรือเส้นทางหนีไฟที่สามารถมองเห็นหรือเข้าถึงได้ง่าย มีจำนวนที่เพียงพอตามที่มาตรการป้องกันอัคคีภัยโรงงานกำหนด เพื่อให้สามารถอพยพผู้คนได้อย่างรวดเร็วในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
4. จัดให้มีทางออกทุกอาคารอย่างน้อย 2 ทาง
ในแต่ละอาคารควรมีทางออกสู่ภายนอกอย่างน้อย 2 ทาง ที่สามารถอพยพบุคลากรออกจากบริเวณนั้นได้ภายในเวลาไม่เกิน 5 นาทีอย่างปลอดภัย ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงในกรณีที่ทางออกหลักเกิดปัญหา มีสิ่งกีดขวางหรือไม่สามารถออกได้เป็นต้น
5. ประตูที่ใช้ในเส้นทางหนีไฟต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง

เพื่อให้ระบบป้องกันอัคคีภัยในโรงงานเป็นไปอย่างราบรื่น ประตูทางออกหนีไฟควรตั้งอยู่ในจุดที่โล่ง ไม่ควรนำสิ่งของมาตั้งกีดขวาง รวมถึงต้องเปิดล็อกให้สามารถเข้า-ออกได้ง่าย เพื่อให้การอพยพเป็นไปอย่างทันท่วงที
6. จัดให้มีอุปกรณ์ดับเพลิงแบบมือถือที่สามารถดับเพลิงชนิด เอ บี ซี และดี
การเกิดเพลิงไหม้ในโรงงานอุตสาหกรรมสามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ทั้งไฟฟ้าลัดวงจร สะเก็ดไฟที่ลามไปถึงเชื้อเพลิงแห้ง รวมถึงการลุกลามของน้ำมัน ซึ่งเพลิงแต่ละประเภทจะใช้อุปกรณ์ดับเพลิงที่แตกต่างกันออกไป เพื่อความปลอดภัย หน่วยงานจึงจำเป็นต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงที่สามารถดับเพลิงประเภท A B C และ D ได้ โดยติดตั้งในจุดที่มองเห็นได้ชัดเจน
7. จัดให้มีการตรวจสอบสภาพอุปกรณ์ดับเพลิง
เพื่อให้การป้องกันอัคคีภัยในโรงงานเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ หลังการติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง ควรมีการตรวจสอบสภาพการใช้งานอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ว่าตัวถังสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่ หรือสารเคมีภายในถังมีปริมาตรมากน้อยเพียงใด
8. จัดเตรียมน้ำสำรองไว้ใช้ในการดับเพลิง
ในกรณีที่เป็นโรงงานเกี่ยวกับวัสดุกระดาษ ผ้า หรือชิ้นส่วนที่ลามไฟได้ง่าย ผู้ประกอบการควรจัดเตรียมน้ำสำรองเพื่อใช้ในการดับเพลิงชั่วคราว ช่วยยืดเวลาในการอพยพ รวมถึงลดความเสียหายในเบื้องต้น
9. จัดให้มีการตรวจสอบการติดตั้งและการดูแลรักษาอุปกรณ์ดับเพลิง
ควรตรวจสอบอุปกรณ์ดับเพลิง อาทิ หัวจ่ายน้ำ สายส่งดับเพลิง ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ อย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบป้องกันอัคคีภัยในโรงงานมีความพร้อมรับมือในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน
10. จัดให้มีบุคลากรเข้ารับการฝึกอบรมการดับเพลิงขั้นต้น
อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับการป้องกันอัคคีภัยในโรงงาน คือการฝึกอบรมบุคลากร ให้มีความรู้ ความชำนาญ รวมถึงเข้าใจขั้นตอนในการดับเพลิงขั้นต้น เพื่อช่วยในการควบคุมสถานการณ์ให้เป็นปกติหรือเกิดความเสียหายรุนแรงน้อยที่สุด
11. จัดให้มีทีมระงับเหตุเพลิงไหม้และผจญเพลิง
เนื่องจากเหตุเพลิงไหม้เป็นเหตุไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นได้เสมอ ผู้ประกอบการอาจมีการจัดทีมระงับเหตุเพลิงไหม้ ที่ทำหน้าที่ดับเพลิงโดยเฉพาะไว้ตลอดเวลาปฏิบัติงาน เพื่อให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
12. จัดเก็บและแยกวัตถุไวไฟ หรือวัตถุระเบิด

หลายครั้งเหตุอัคคีภัยที่มีความรุนแรงสูง มักเกิดจากการที่เปลวไฟลามไปยังวัตถุไวไฟหรือเชื้อเพลิงต่าง ๆ ทำให้เกิดการระเบิด การป้องกันอัคคีภัย ในโรงงานอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ จึงควรแยกวัตถุไวไฟให้อยู่ในที่จัดเก็บที่มิดชิด มีความเสี่ยงในการสัมผัสประกายไฟน้อยกว่า เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอันตราย
13. ควบคุมไม่ให้เกิดการรั่วไหลหรือการระเหยของวัตถุไวไฟ
สถานประกอบการจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมและตรวจสอบระบบท่อส่งวัตถุไวไฟอย่างเคร่งครัดตามมาตรฐาน โดยเฉพาะการตรวจสอบและแก้ไขจุดบกพร่อง รอยแตกร้าว หรือการรั่วไหลที่อาจเกิดขึ้น เพื่อป้องกันการระเหยสู่บรรยากาศ ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดไฟ การปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม หรือส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานตามมา
14. จัดให้มีระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ชนิดเปล่งเสียง
ภายในอาคารต่าง ๆ จำเป็นต้องติดตั้งระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ในทุกจุดที่เข้าถึงได้ โดยเฉพาะบริเวณทางหนีไฟ โถงทางเดิน และจุดรวมของทางออก รวมถึงมีเสียงดังเพียงพอที่จะได้ยินทั่วถึง เพื่อให้ผู้ที่ได้ยินตื่นตัว พร้อมสำหรับการอพยพ สำหรับอาคารขนาดใหญ่หรือพื้นที่เฉพาะ อาจต้องเสริมด้วยสัญญาณแสงแฟลช เพื่อให้สามารถเตือนภัยได้อย่างทั่วถึง แม้ในบริเวณที่มีเสียงรบกวนสูง หรือกับผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
15. จัดให้มีการฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ
พนักงานทุกคนควรต้องมีความรู้ความชำนาญในการดับเพลิง รวมถึงการอพยพหนีไฟอย่างถูกต้อง องค์กรจึงจำเป็นต้องมีการจัดฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง นอกจากนี้ บุคลากรอาจมีการอบรมในด้านการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ การปฐมพยาบาลรวมถึงการช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน
ซึ่ง 15 เทคนิคการป้องกันอัคคีภัย ในโรงงานอุตสาหกรรมเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงอาคารต่าง ๆ ให้มีความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายรุนแรงเมื่อเกิดเพลิงไหม้ และนอกจากเรื่องของการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้ว อีกหนึ่งสาเหตุที่ควรใส่ใจไม่แพ้กัน คือการติดตั้งระบบไฟฟ้า อาทิ กล่องพักสายไฟ รางวายเวย์ ให้มีความปลอดภัยสูง เพื่อช่วยลดโอกาสเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอัคคีภัยได้
เลือกอุปกรณ์ติดตั้งระบบไฟฟ้าให้แข็งแรงทนทาน ต้อง KJL ผู้นำด้านนวัตกรรมตู้ไฟ ราง Wireway ราง Cable Tray ราง Cable Ladder รวมถึงอุปกรณ์ด้านการติดตั้งระบบไฟฟ้าครบวงจร ที่ควบคุมการผลิตด้วยระบบ CNC รวมถึงเครื่องจักรอัตโนมัติจากญี่ปุ่น ทำให้มั่นใจว่าจะได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพเท่ากันทุกชิ้น ตรงตามมาตรฐานการติดตั้ง ตอบโจทย์การติดตั้งระบบไฟฟ้าในทุกโครงการ
 
				 
															 
															 
															 
															 
															

