มัลติมิเตอร์ คืออะไร มีอะไรบ้าง? ที่ใช้สำหรับงานไฟฟ้า

มัลติมิเตอร์ คืออะไร มีอะไรบ้าง? ที่ใช้สำหรับงานไฟฟ้า

การทำงานในระบบไฟฟ้าให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญที่สุดที่ผู้ปฏิบัติงานควรให้ความสำคัญ คือการวัดค่าทางไฟฟ้าต่าง ๆ ว่าอยู่ในระดับที่ปลอดภัย หรือใช้งานได้อย่างราบรื่นหรือไม่ ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือที่ช่างไฟฟ้าทุกคนควรมีติดตัว คือ มัลติมิเตอร์ ซึ่งสามารถวัดค่าทางไฟฟ้าต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม สามารถพกพาได้ง่าย และมีให้เลือกใช้ในหลากหลายรูปแบบ

บทความนี้จะพามาทำความรู้จักเกี่ยวกับมัลติมิเตอร์ หน้าที่ต่าง ๆ ประเภทของมัลติมิเตอร์ และข้อควรระวังในการใช้งานที่ผู้ปฏิบัติงานควรรู้

มัลติมิเตอร์ คืออะไร? สามารถนำมาใช้วัดอะไรได้บ้าง

มัลติมิเตอร์ หมายถึง เครื่องมือวัดทางไฟฟ้าแบบพกพาที่ออกแบบมาให้สามารถวัดค่าพื้นฐานทางไฟฟ้าที่จำเป็นได้อย่างหลากหลายในอุปกรณ์เดียว โดยหลัก ๆ แล้วคือการวัดแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง (DC) และกระแสสลับ (AC) การวัดกระแสไฟฟ้า (Current) รวมถึงการวัดความต้านทาน (Resistance) ด้วยความสามารถในการพกพาและฟังก์ชันที่ครอบคลุม ทำให้มัลติมิเตอร์เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับช่างไฟฟ้า วิศวกร และผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์ ที่ช่วยในการตรวจสอบความผิดปกติ การซ่อมบำรุง หรือการติดตั้งระบบไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย

ประเภทของมัลติมิเตอร์ มีอะไรบ้าง

มัลติมิเตอร์ คืออุปกรณ์ที่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน ทำให้มีให้เลือกใช้งานในหลากหลายรูปแบบ โดยประเภทหลัก ๆ ของมัลติมิเตอร์ มีอะไรบ้าง สามารถสรุปได้ดังนี้

1. มัลติมิเตอร์แบบอนาล็อก (Analog Multimeter)

มัลติมิเตอร์แบบอนาล็อก

มัลติมิเตอร์แบบอนาล็อก คือเครื่องมือวัดทางไฟฟ้าที่แสดงค่าด้วยการเคลื่อนที่ของเข็มบนหน้าปัด โดยอาศัยหลักการที่กระแสไฟฟ้าในขดลวดสร้างสนามแม่เหล็ก ทำให้เข็มชี้เบนตามปริมาณกระแสที่ไหลผ่าน การวัดแรงดันและความต้านทานทำได้ด้วยการต่อตัวต้านทานเพิ่มเติมในวงจร เพื่อปรับกระแสให้เหมาะกับย่านวัด จุดเด่นคือสามารถแสดงการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณได้ต่อเนื่องแบบเรียลไทม์ เหมาะสำหรับตรวจสอบสัญญาณที่มีความผันผวนสูง

2. มัลติมิเตอร์ดิจิตอล (Digital Multimeter)

มัลติมิเตอร์ดิจิตอล

มัลติมิเตอร์ดิจิตอล เป็นเครื่องมือวัดทางไฟฟ้าสมัยใหม่ที่แสดงผลเป็นตัวเลขบนหน้าจอ (LED หรือ LCD) ใช้วัดแรงดัน กระแส และความต้านทาน โดยแปลงสัญญาณแอนะล็อกเป็นดิจิทัลผ่านวงจร A/D ทำให้ได้ค่าที่อ่านง่าย แม่นยำ และลดความคลาดเคลื่อนจากการอ่านผิด จึงเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในงานตรวจวัดและซ่อมบำรุงวงจรไฟฟ้าในปัจจุบัน

3. แคลมป์มิเตอร์ (Clamp Meter)

แคลมป์มิเตอร์

แคลมป์มิเตอร์ คือเครื่องมือวัดทางไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่รวมเอาคุณสมบัติของมัลติมิเตอร์เข้ากับเซ็นเซอร์วัดกระแสแบบเหนี่ยวนำ ทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถวัดกระแสไฟฟ้า (Current) ได้โดยไม่ต้องตัดวงจรหรือสัมผัสกับตัวนำไฟฟ้าโดยตรง หลักการทำงานของเครื่องมือนี้คือการใช้ปากแคลมป์ (Jaw) คล้องเข้ากับสายไฟ เมื่อมีกระแสไหลผ่านสนามแม่เหล็กจะถูกเหนี่ยวนำขึ้นรอบสายไฟ ซึ่งแคลมป์มิเตอร์จะทำการตรวจจับและแปลงความเข้มของสนามแม่เหล็กนั้นให้เป็นค่ากระแสไฟฟ้าที่วัดได้บนหน้าจอ ทำให้การวัดเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัดหรือการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าขณะทำงาน

4. มัลติมิเตอร์แบบปากกา

มัลติมิเตอร์แบบปากกา

มัลติมิเตอร์แบบปากกา คือเครื่องมือวัดไฟฟ้าแบบดิจิทัล ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด รูปร่างคล้ายปากกา  ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการพกพาและใช้งานด้วยมือเดียว ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานภาคสนาม การทำงานในพื้นที่แคบ หรือการซ่อมบำรุงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก หลักการทำงานจะคล้ายกับมัลติมิเตอร์ทั่วไป ซึ่งหลายรุ่นยังมีฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น ไฟส่องสว่าง หรือการตรวจจับแรงดันไฟฟ้าแบบไม่สัมผัส (NCV) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งานเบื้องต้นอีกด้วย

อักษรที่แสดงอยู่บน เครื่องวัดมัลติมิเตอร์

โดยสัญลักษณ์บนหน้าจอหรือหน้าปัดบนมัลติมิเตอร์ หมายถึงค่าทางไฟฟ้าต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • Ω คือ ค่าความต้านทาน
  • VDC คือ ค่าโวลต์ไฟฟ้ากระแสตรง
  • VAC  คือ ค่าโวลต์ไฟฟ้ากระแสสลับ
  • ขั้วต่อ Output จะเอาไว้ใช้วัดสัญญาณ Output
  • ขั้วต่อ – (ลบ) COM MEASURING TERMINAI-COM ใช้ต่อกับสาย PROBE สีดำ
  • ขั้วต่อ + (บวก) MEASURING TERMINAI ใช้ต่อกับสาย PROBE สีแดง

ข้อควรระวังในการใช้งาน มัลติมิเตอร์

  • ตั้งค่าย่านวัดให้ถูกต้องและเหมาะสมกับค่าที่คาดว่าจะวัดได้ก่อนการวัดเสมอ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อตัวเครื่องมือ
  • การวัดค่าความต้านทาน (Ω) หรือการทดสอบความต่อเนื่อง (Continuity) ต้องทำในขณะที่วงจรถูกตัดแหล่งจ่ายไฟแล้วเท่านั้น มิฉะนั้นจะทำให้มัลติมิเตอร์เสียหายอย่างถาวร
  • อย่าวัดค่าที่เกินกว่าพิกัดสูงสุด (Max Input Rating) ที่ระบุไว้บนตัวมัลติมิเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงดันไฟฟ้า เพื่อป้องกันการโอเวอร์โหลดของอุปกรณ์
  • ตรวจสอบว่าสายโพรบวัด (Leads) ไม่มีรอยแตก ฉนวนหุ้มไม่เสียหาย และเชื่อมต่อเข้ากับช่องเสียบของมัลติมิเตอร์อย่างแน่นหนา
  • สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE) เช่น ถุงมือและแว่นตานิรภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำงานกับระบบไฟฟ้าแรงสูงหรือกระแสสูง
  • ใช้มัลติมิเตอร์ที่มีระดับความปลอดภัย (CAT I, CAT II, CAT III, CAT IV) ที่เหมาะสมกับประเภทของงานที่กำลังทำอยู่เสมอ

จะเห็นได้ว่า มัลติมิเตอร์ คือเครื่องมือวัดอเนกประสงค์ที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกคนในสายงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าในบ้าน การหาความผิดปกติของวงจร หรือการวัดความต้านทานของอุปกรณ์ต่าง ๆ การทำความเข้าใจหน้าที่และวิธีการทำงานของมัลติมิเตอร์อย่างละเอียด รวมถึงการปฏิบัติตามข้อควรระวังในการใช้งานอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย แม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูงสุด การลงทุนในมัลติมิเตอร์ที่มีคุณภาพจึงเป็นการลงทุนในความถูกต้องและความปลอดภัยของงานอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ การเลือกติดตั้งระบบไฟฟ้าด้วยอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็น รางวายเวย์ ราง Cable Tray ข้อต่อ แผ่นปิดท้าย รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ อย่างกล่องดึงสาย ตู้ไฟ จะช่วยให้งานระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น KJL คือผู้นำด้านนวัตกรรมตู้ไฟ รางไฟ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีและการออกแบบที่มีคุณภาพสูง เพื่อรองรับการใช้งานในทุกสภาพแวดล้อม ทั้งในอุตสาหกรรม อาคารพาณิชย์ และโครงการใหญ่ระดับภาครัฐและเอกชน ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล KJL จึงเป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้สำหรับผู้ที่มองหาความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดในงานระบบไฟฟ้า

KJL ผู้นำนวัตกรรมตู้ไฟ รางไฟ ที่ช่างไฟเชื่อมั่น ด้วยเทคโนโลยีการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น
สอบถามข้อมูลสินค้าได้ที่ 

LINE Official Account: @KJL.connect หรือคลิก https://lin.ee/lzVhFfo

Facebook: facebook.com/KJLElectric

Related Article บทความสาระน่ารู้อื่น ๆ

รู้จักกับคลื่นไมโครเวฟ คุณสมบัติพิเศษ และหลักการทำงาน

รู้จักกับคลื่นไมโครเวฟ คุณสมบัติพิเศษ และหลักการทำงาน

คู่มือการดูแล เครื่องมือช่าง วิธีใช้ การเก็บรักษา

คู่มือการดูแล เครื่องมือช่าง วิธีใช้ การเก็บรักษา

แชร์ 15 มาตรการป้องกันอัคคีภัยในโรงงานอุตสาหกรรม

แชร์ 15 มาตรการป้องกันอัคคีภัยในโรงงานอุตสาหกรรม